เผยสาเหตุ ทำไมท้าวเวสสุวรรณ ตั้งอยู่หน้าร้านทองแม่ตั๊ก ถึงต้องปิดตาด้วยผ้าแดง
เผยสาเหตุ ทำไมท้าวเวสสุวรรณ ตั้งอยู่หน้าร้านทองแม่ตั๊ก ถึงต้องปิดตาด้วยผ้าแดง ชาวเน็ตเตือนตั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้วคิดไม่ดี ระวังจะต้องเจอเรื่องร้ายๆ เข้าตัว
เป็นกระแสดราม่าอย่างหนัก สำหรับประเด็นซื้อทองออนไลน์ เมื่อมีผู้ใช้ติ๊กต็อกรายหนึ่ง ทำคลิปนำทองที่ซื้อมาจากไลฟ์สดของช่องติ๊กต็อกของ แม่ตั๊ก กรกนก แม่ค้าดังเจ้าของร้านทอง โดยเป็นสร้อยพร้อมจี้ไอ้ไข่ และดอกไม้ทองคำ นำไปขายที่ร้านทอง แต่ปรากฏว่าทางร้านทองไม่รับซื้อ เพราะไม่มีเปอร์เซ็นต์ทองและไม่มียี่ห้อ เชื่อว่าถ้ารับซื้อแล้วนำไปหลอมจะไม่ได้ทองตามที่โฆษณาไว้
ฝั่งแม่ตั๊ก และสามี ออกมายืนยันว่า ไม่ได้ขายทองปลอม และยินดีรับซื้อคืน พร้อมยอมรับว่าบางครั้งไปไลฟ์สดแล้วไม่ได้อธิบายชัดว่า อันนี้เป็นทองกี่กรัม มีพูดในไลฟ์ แต่ไม่ได้ขึ้นเป็นข้อความให้เห็นชัดๆ
ส่งผลให้ตลอดทั้ง 2 วันที่ผ่านมา มีลูกค้าผู้ซื้อทองคำไปหลายราย แห่นำทองคำมาขายคืนที่ร้านทองของแม่ตั๊กจำนวนมาก แต่ราคาได้ไม่เท่ากับตอนที่ซื้อมา
หลายคนต้องการให้แม่ตั๊กออกมาแสดงความรับผิดชอบและคืนเงินเต็มจำนวนตามราคาที่ซื้อไป
สำหรับความคืบหน้า วันที่ 25 ส.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบริเวณหน้าร้านทองคำของแม่ตั๊ก นอกจากมีลูกค้าที่นำทองคำที่ซื้อไปมาเข้าแถวรอคืนทองคำแล้ว พบว่าบริเวณหน้าร้านยังมีรูปปั้นท้าวเวสสุวรรณองค์สีแดง ยืนถือกระบอกอยู่บริเวณประตูทางเข้าร้านทองแม่ตั๊ก
แต่ที่หลายคนสังเกตและต่างตั้งข้อสงสัยจากรูปปั้นท้าวเวสสุวรรณที่พบ เนื่องจากพบว่ารูปปั้นถูกปิดตาด้วยผ้าสีแดง ทำให้ชาวเน็ตหลายคนต่างสงสัยถึงเหตุผลและสาเหตุที่ว่าทำไมรูปปั้นท้าวเวสสุวรรณถึงต้องปิดตาด้วย
ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังผู้จัดการร้านทอง ให้คำตอบในประเด็นนี้ว่า สาเหตุที่ต้องปิดตารูปปั้นท้าวเวสสุวรรณ เนื่องจากยังไม่ได้ทำพิธีเบิกเนตรตามความเชื่อ จึงต้องใช้ผ้าสีแดงปิดตาไว้ก่อน
นอกจากนี้บริเวณหน้าร้านทองยังมีรูปปั้นปี่เซียะและสิงโตทองตั้งอยู่ด้วย รวมทั้งรูปปั้นไอ้ไข่ โดยรูปปั้นทั้งหมดต่างถึงเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อ
ทำให้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความเห็นว่า การที่นำรูปปั้นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั้งรูปปั้นท้าวเวสสุวรรณ รูปปั้นปี่เซียะ สิงโตทอง รูปปั้นไอ้ไข่ มาตั้งไว้หน้าร้าน แต่ธุรกิจดำเนินกิจการอย่างไม่ถูกต้องและตรงไปตรงมา สิ่งศักดิ์สิทธิ์อาจทำให้ธุรกิจเจอกับเรื่องราวไม่ดี และสุดท้ายความจริงของเรื่องนี้ก็ตีแผ่ให้ปรากฏขึ้น