“หมอปลา” สื่อวิญญาณ “แตงโม” เสียชีวิตในน้ำ พร้อมสาเหตุเพื่อนๆ ไม่กล้ายุ่ง
“หมอปลา” สื่อวิญญาณ “แตงโม” เสียชีวิตในน้ำ พร้อมสาเหตุเพื่อนๆ ไม่กล้ายุ่ง
หมอปลา มือปราบสัมภเวสี ได้มาออกรายการแฉ พูดคุยถึงการเสียชีวิตของนักแสดงสาวแตงโม นิดา พร้อมเผยต่อจากที่คราวก่อนหมอปลาบอกว่าจะไปสื่อวิญญาณพูดคุยกับแตงโมผ่านร่างแฟนของ นิก คุณาธิป ปิ่นประดับ”อดีตแฟนเก่าของ แตงโม เพราะเป็นคนที่ฝันถึงแตงโมบ่อยมากๆ โดยหมอปลาออกมาอัปเดตว่า
จะเล่าว่าที่ผ่านมาแฟนของนิกฝันถึงแตงโมบ่อยมาก ฝันว่าแตงโมมาชวนไปเที่ยว ไปกินข้าว นี่นั่นและทุกครั้งที่ฝันเขาก็จะทำบุญให้กับแตงโม เขาทำบุญให้แตงโมเยอะมากๆ ทำให้ตลอด น้องก็ถามตัวเองว่าทำไมเขาถึงฝันถึงแตงโม แล้วเขาก็มาถามผม ผมก็บอกเขาว่ามันเป็นไปได้นะที่จิตเขาผูกพันกับนิก แล้วสัมผัสมาถึงแฟนของนิก
ผมก็บอกว่าถ้าอยากรู้ลึกกว่านี้ว่าแตงโมมาทำไม ต้องการให้เราช่วยอะไร ผมจะสัมผัสให้ แต่ส่วนตัวของผมเราไม่รู้ว่าแตงโมตายบนบกหรือในน้ำ อันนี้เป็นสิ่งสำคัญ ผมได้ถามหลายคนว่าได้มีการเรียกวิญญาณแตงโมไหม เขาบอกมีการเรียกวิญญาณ แต่ถ้าตายในน้ำการเรียกวิญญาณก็จะเป็นอีกแบบนึง ตายบนบกก็จะเป็นอีกแบบนึง คนละวิธีกัน คือถ้าคนตายในน้ำ คือการถูกลากลงไปในน้ำ จิตวิญญาณก็จะดิ่งลงไปในน้ำเหมือนกัน การเรียกวิญญาณคือต้องกลั้นใจจุดธูป 1 ดอกและดำลงไปปักข้างล่างพื้นดินใต้น้ำ ต้องหาจุดที่ใกล้เคียงที่สุดเพื่อเอาดวงวิญญาณขึ้นมา แต่ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าแตงโมตายยังไง
แต่ถ้าแตงโมตายบนบก จุดที่ตายก็มีผลอีก ถ้าไปอยู่ในจุดที่มีการเหยียบย่ำวิญญาณ วิญญาณก็ไปไหนไม่ได้อีก กลายเป็นธรรมชาติสะกดดวงวิญญาณไว้ทำให้ไปไหนไม่ได้ ผมอยากไปช่วยแตงโมนะ คือผมอยากจะรู้ว่าแตงโมยังทนทุกข์ทรมานอยู่หรือเปล่า แต่ต้องรู้ก่อนว่าเขาเสียตรงไหน แต่ทีนี้ล่าสุดแฟนนิกเขาไม่อยากมีปัญหา ผมเข้าใจเขานะ เอาอย่างนี้นะ ผมจะทดลองให้ดู”
จากนั้น “หมอปลา” ได้เรียกทีมงานแฉ ผู้หญิงที่เป็นน้องฝึกงานขึ้นมาบนเวทีและให้ถอดรองเท้าขึ้นมานั่งและเอามือสัมผัสรูปของแตงโมที่หมอปลาเตรียมมา รวมถึงหมอปลาเองก็นำมือสัมผัสรูปของแตงโมด้วย เพื่อสื่อถามแตงโมว่ายังอยู่ และอยากให้ช่วย
เมื่อทำพิธีตามแบบหมอปลา สรุปว่าทีมงานเท้าเย็น หมอปลาจึงสรุปว่า… “แสดงว่าแตงโมเขาอยู่ในน้ำ เขาตายในน้ำ และตอนนี้วิญญาณของน้องยังไปไหนไม่ได้”
จากนั้น มดดำ คชาภา พิธีกร ถามหมอปลาว่า แบบนี้จะถามว่าถูกฆาตกรรมหรือไม่ หมอปลา รีบให้ทีมงานเอามือออกจากรูปของแตงโมทันทีแล้วก็เล่ารายละเอียดต่อว่า… “คือถ้าเราอยากรู้ว่าวิญญาณอยู่ไหนให้เอามือแตะรูปของคนที่เสียชีวิต แล้วผมก็จะช่วยสื่อให้ด้วยวิชาของผม ถ้าวิญญาณนั้นไม่ไปไหน ยังวนเวียนอยู่จุดนั้นมันก็จะเกิดธาตุ อาจอุ่น อาจเย็น อาจชา แต่นี่น้องเขาปลายเท้าเย็น แสดงว่าแตงโมอยู่ในน้ำ วิญญาณแตงโมยังอยู่ตรงนั้นไม่ไปไหน ใช่ครับ แตงโมไม่ได้ตายบนบกแต่ตายในน้ำ
แต่ถ้าอยากถามว่าเป็นอุบัติเหตุหรือฆาตกรรมต้องไปหาจากร่างที่แตงโมไปหาบ่อยๆ นั่นคือแฟนของนิก แต่ว่าเขาไม่อยากยุ่ง ตัวผมเองก็เอาแค่นี้พอครับ มันสุ่มเสี่ยงหลายเรื่อง จากที่ผมได้คุยกับคนใกล้ชิดแตงโมเอง ก็ดูแล้วมันสุ่มเสี่ยงหลายเรื่องที่ภัยจะเข้ามาหาพวกเรากันเอง ฉะนั้นก็ปล่อยให้มันเป็นไปตามกรรม ใครทำอะไรก็ไปรับกรรมตรงนั้น ถึงแม้วันนี้สิ่งที่เขาทำเขายังไม่ได้รับ แต่ผมเชื่อว่าอนาคตเขาต้องได้รับกรรมนี้อยู่แล้ว เขาหนีไม่พ้นหรอก และผมก็เชื่อว่าวิญญาณน้อง ณ วันนี้ยังทนทุกข์ทรมานอยู่ ยังไม่ไปไหนแน่นอน ยังอยู่ตรงจุดนั้น
คุณน่าจะชอบ
รวมมาตรการกระตุ้นซื้อบ้าน อสังหา 2567 ลดค่าโอน ดอกเบี้ยถูก
ใครที่กำลังคิดซื้อบ้าน ทาวน์โฮม หรือคอนโดช่วงนี้ อาจจะกำลังกังวลถึงการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ส่งผลให้ดอกเบี้ยบ้านเพิ่มสูงขึ้น จึงทำให้คนซื้อบ้านช่วงนี้อาจมีภาระเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ชะลอการตัดสินใจซื้อบ้าน ซึ่งแท้จริงแล้วยังมีมาตรการกระตุ้นอสังหาประจำปี 2567 ที่ยังเอื้อต่อการซื้อบ้านให้สบายกระเป๋า โดยมีรายละเอียดดังนี้
มาตรการลดค่าโอนและจดจำนองอสังหาฯ เหลือ 0.01% 1 ปี
เป็นมาตรการรัฐซื้อบ้านปี 2567 ที่เกิดขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาฯ โดยเริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคม 2562 เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายเพื่อให้แก่คนซื้อบ้าน มาจนถึงปี 2567 ในปัจจุบันรัฐบาลยังคงเดินหน้าต่อมาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัยต่อไป เพื่อกระตุ้นการซื้อบ้านให้ขยายตัวมากขึ้น โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่กฎหมายได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567
ตารางแสดงตัวอย่างการคำนวณค่าโอน จดจำนองบ้าน
ราคาบ้าน | ค่าโอน จดจำนอง ก่อนมีมาตรการรัฐกระตุ้นภาคอสังหาฯ | ค่าโอน จดจำนอง หลังมีมาตรการรัฐกระตุ้นภาคอสังหาฯ |
---|---|---|
ซื้อบ้านราคา 3 ล้านบาท | ค่าโอน 2% = 60,000 บาท ค่าจดจำนอง 1% = 30,000 บาท รวมค่าใช้จ่าย = 63,000 บาท | ค่าโอน 0.01% = 300 บาท ค่าจดจำนอง 0.01% = 300 บาท รวมค่าใช้จ่าย = 600 บาท |
ซื้อบ้านราคา 5 ล้านบาท | ค่าโอน 2% = 100,000 บาท ค่าจดจำนอง 1% = 50,000 บาท รวมค่าใช้จ่าย = 150,000 บาท | ค่าโอน 0.01% = 500 บาท ค่าจดจำนอง 0.01% = 500 บาท รวมค่าใช้จ่าย = 1,000 บาท |
ซื้อบ้านราคา 7 ล้านบาท | ค่าโอน 2% = 140,000 บาท ค่าจดจำนอง 1% = 70,000 บาท รวมค่าใช้จ่าย = 210,000 บาท | ค่าโอน 0.01% = 700 บาท ค่าจดจำนอง 0.01% = 700 บาท รวมค่าใช้จ่าย = 1,400 บาท |
ทั้งนี้ยังมี 5 สินเชื่อที่อยู่อาศัย ที่ภาครัฐออกมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ และให้คนซื้อบ้านได้ง่ายขึ้น คือ
- สินเชื่อบ้าน Happy Home ธอส. ดอกเบี้ยคงที่ 3% ต่อปี นาน 5 ปี
- วัตถุประสงค์: เป็นรูปแบบสินเชื่อในวงเงินโครงการ 20,000 ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสนับสนุนผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง ที่ต้องการซื้อที่ดินพร้อมอาคาร ห้องชุด ปลูกสร้างอาคารหรือเพื่อซื้ออุปกรณ์ ตกแต่ง สิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย
- อัตราดอกเบี้ย: อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3% ต่อปี เป็นระยะเวลา 5 ปี วงเงินต่อรายสูงสุด ไม่เกิน 3,000,000 บาท
- ระยะเวลากู้: สูงสุดไม่เกิน 40 ปี
- เงื่อนไข: ยื่นคำขอกู้ได้ตั้งแต่วันนี้ – 30 ธันวาคม 2568
- สามารถดูข้อมูลดอกเบี้ยและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: ธนาคารอาคารสงเคราะห์
- สินเชื่อบ้าน Happy Life ธอส. ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก 2.98% ต่อปี
- วัตถุประสงค์: เป็นรูปแบบสินเชื่อในวงเงินโครงการ 10,000 ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์ให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง และเพื่อซื้อที่ดินพร้อมอาคารหรือห้องชุด ปลูกสร้างอาคารหรือซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างอาคาร เพื่อต่อเติม ขยาย หรือซ่อมแซมอาคาร หรือไถ่ถอนจำนองจากสถาบันการเงินอื่น
- อัตราดอกเบี้ย: อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกอยู่ที่ 2.98% ต่อปี วงเงินต่อรายตั้งแต่ 2,500,000 บาทขึ้นไป
- ระยะเวลากู้: สูงสุดไม่เกิน 40 ปี
- เงื่อนไข: ยื่นคำขอกู้ได้ตั้งแต่วันนี้ หรือจนกว่าธนาคารให้สินเชื่อเต็มกรอบวงเงินที่กำหนด
- สามารถดูข้อมูลดอกเบี้ยและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: ธนาคารอาคารสงเคราะห์
- สินเชื่อบ้านออมสินเพื่อประชาชน ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก 2.95% ต่อปี
- วัตถุประสงค์: เพื่อสนับสนุนบุคคลทั่วไปที่ต้องการซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ห้องชุด หรือปลูกสร้างที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง
- อัตราดอกเบี้ย: อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกอยู่ที่ 2.95% ต่อปี วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 7,000,000 บาทต่อราย
- ระยะเวลากู้: สูงสุดไม่เกิน 40 ปี
- เงื่อนไข: ยื่นคำขอกู้ได้ตั้งแต่วันนี้ – 30 ธันวาคม 2567
- สามารถดูข้อมูลดอกเบี้ยและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: ธนาคารออมสิน
- โครงการบ้านตั้งต้น ให้กลุ่ม First Jobber จากการเคหะ
การเคหะแห่งชาติ คัดเลือกโครงการที่น่าสนใจมาจัดทำเป็น “โครงการบ้านตั้งต้น” ให้กับกลุ่ม First Jobber จำนวน 7,823 หน่วย แบ่งเป็นบ้านเพื่อขาย 6,395 หน่วย และเป็นบ้านเพื่อเช่า 1,428 หน่วย ซึ่งกลุ่ม First Jobber สามารถเข้าถึง “บ้านตั้งต้น” ได้ 3 วิธี ได้แก่
- Rent to Buy หรือเช่าเพื่อซื้อ เป็นการเช่าระยะสั้น 3-5 ปี และสามารถซื้อเป็นของตนเองภายในเวลาการเช่าหรือครบระยะเวลาเช่า
- ซื้อแล้วผ่อนชำระกับสถาบันการเงิน
- เช่าซื้อโดยตรงกับการเคหะแห่งชาติ
สามารถดูข้อมูลดอกเบี้ยและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: การเคหะแห่งชาติ
- บ้านล้านหลัง เฟส 3 วงเงินให้กู้ 2 ล้าน ดอกเบี้ย 3% คงที่ 5 ปี
- วัตถุประสงค์: ให้กู้บ้าน ราคาซื้อ-ขาย/ค่าก่อสร้างและวงเงินกู้สูงสุดต่อรายต่อหลักประกันไม่เกิน 2,000,000 บาทต่อรายต่อหลักประกัน ทั้งประเภทบ้าน หรือคอนโดมิเนียม ทั้งที่เป็นที่อยู่อาศัยใหม่ของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ หรือบ้านมือสอง หรือเพื่อปลูกสร้าง และซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกในการอยู่อาศัยพร้อมซื้อบ้านหรือคอนโด
- อัตราดอกเบี้ย: อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกอยู่ที่ 3% ต่อปี วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 7,000,000 บาทต่อราย
- ระยะเวลากู้: สูงสุดไม่เกิน 40 ปี
- เงื่อนไข: ยื่นคำขอกู้ได้ตั้งแต่วันนี้ และทำนิติกรรมภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2568
- สามารถดูข้อมูลดอกเบี้ยและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ปรับเปลี่ยนมาตรการ LTV
มาตรการ LTV หรือ Loan to Value คือมาตรการที่ภาครัฐออกมาเพื่อคัดคุณภาพของผู้ยื่นขอสินเชื่อ ลดความเสี่ยงให้กับทางธนาคารพาณิชย์ โดยเป็นการตีกรอบสัดส่วนเงินกู้ต่อมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ที่เราซื้อ ไม่ให้อัตราเงินกู้ของเรานั้นสูงจนเกินไป ทำให้ผู้ซื้อบ้านราคาสูงหรือซื้อหลายหลังต้องเพิ่มจำนวนเงินดาวน์มากขึ้น