เซอร์ไพรส์วงการ นางเอกสาวคนดัง จดทะเบียนสมรสแล้ว
“มายด์ ลภัสลัล” จดทะเบียนสมรสแล้ว ทำแฟนคลับเข้ามาแสดงความยินดีกับนักแสดงสาว มายด์ ลภัสลัล หลังจากที่แฟนหนุ่ม พาย สุนิษฐ์ (ภิรมย์ภักดี) สกอต ทายาทสิงห์ คุกเข่าขอแต่งงานไปเมื่อปีที่แล้ว หลังคบหาดูใจกันมานาน 7 ปี โดยก่อนหน้านี้เจ้าตัวได้อัปเดตแพลนงานแต่งจะจัดขึ้นในช่วงเดือนธันวาคมปีนี้ ซึ่งตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการเตรียมงาน
ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 ก.พ. 2568 สาวมายด์ มีเรื่องให้แฟนๆเซอร์ไพรส์อีกครั้ง หลังโพสต์คลิปคู่แฟนหนุ่ม พร้อมโชว์ใบทะเบียนสมรส พร้อมเผยโมเมนต์ฉลองครบรอบรัก 8 ปี ระบุข้อความว่า
“Today, Last year Time flies ! We never had an anniversary date and always discussed when it was.. so from now on we agreed that today is our anniversary, Happy 8th Anniversary my other half. I’m so happy to have you in my life, can’t wait for our most fun part coming very SOOON”
(วันนี้ เมื่อปีที่แล้ว… เวลาผ่านไปเร็วจริง ๆ! เราไม่เคยมีวันครบรอบที่แน่นอน และมักจะคุยกันเสมอว่าเป็นวันไหน… ดังนั้น จากนี้ไป เราตกลงกันว่าวันนี้คือวันครบรอบของเรา สุขสันต์วันครบรอบ 8 ปีนะที่รัก ฉันมีความสุขมากที่มีคุณอยู่ในชีวิต และอดใจรอช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นที่สุดของเราไม่ไหวแล้ว… อีกไม่นานนี้)
ท่ามกลางแฟนคลับที่เข้ามาแสดงความยินดีเป็นจำนวนมาก
เช็กทำเล ราคาที่ดินแพงที่สุดในกรุงเทพฯ ปี 2567
อัปเดตล่าสุด 11 กุมภาพันธ์ 2568 • ใช้เวลาอ่าน 3 นาทีซื้อบ้านหลังแรก

ราคาขายที่ดินปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะที่ดินถือเป็นปัจจัยสำคัญทั้งของการก่อสร้างบ้านใหม่ และการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ อย่างโครงการบ้านแนวราบ หรือคอนโด ลองมาดูว่าในช่วงที่ผ่านมา ราคาที่ดินที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดอยู่ในทำเลไหน
อ่านหัวข้อที่คุณสนใจ
- 10 ทำเลที่มีราคาที่ดินเพิ่มขึ้นมากที่สุด
- 10 ทำเลที่มีราคาที่ดินแพงสุด
- 14 ทำเลแนวรถไฟฟ้าราคาที่ดินเพิ่มขึ้น
10 ทำเลที่มีราคาที่ดินเพิ่มขึ้นมากที่สุด
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) รายงานดัชนีราคาที่ดินเปล่าก่อนการพัฒนาในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ไตรมาสที่ 4 ปี 2567 พบว่า ค่าดัชนีราคาที่ดินเปล่า เพิ่มขึ้น 2.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) และเพิ่มขึ้น 1.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY)
ถือเป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าโดยไตรมาส 4 ปี 2566 เพิ่มขึ้น 3.4% YoY ซึ่งการชะลอตัวดังกล่าวเป็นผลจากการชะลอตัวของการลงทุนเพื่อพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โครงการใหม่ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ตามกำลังซื้อที่อยู่อาศัยที่ชะลอตัวตามเศรษฐกิจ
ทำให้ผู้ประกอบการบางส่วนใช้ความระมัดระวังในการตัดสินใจซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการ ส่งผลให้ความต้องการซื้อขายที่ดินเปล่าในกรุงเทพฯ-ปริมณฑลชะลอตัวลง และทำให้ราคาที่ดินเปล่าปรับตัวเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลงด้วยเช่นกัน
ตารางแสดงดัชนีราคาที่ดินเปล่าก่อนการพัฒนาในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ไตรมาส 4 ปี 2567
ช่วงเวลา
ดัชนีราคาที่ดิน
QoQ
YoY
Q1/2565
341
+0.6%
+4.5%
Q2/2565
354.5
+4%
+6.5%
Q3/2565
368.8
+4%
+10.3%
Q4/2565
381.4
+3.4%
+12.5%
Q1/2566
385.7
+1.1%
+13.1%
Q2/2566
376.5
-2.4%
+6.2%
Q3/2566
379.9
+0.9%
+3%
Q4/2566
394.2
+3.8%
+3.4%
Q1/2567
407.8
+3.5%
+5.7%
Q2/2567
398.2
-2.4%
+5.8%
Q3/2567
391.1
-1.8%
+2.9%
Q4/2567
401.4
+2.6%
+1.8%
5 โซน ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ที่มีราคาที่ดินเพิ่มขึ้นสูงสุด
สำหรับโซนที่มีอัตราการขยายตัวของราคาที่ดินเพิ่มขึ้นสูงสุด 5 อันดับแรก เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ยังคงเกาะกลุ่มอยู่ในพื้นที่ชานเมืองของกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยมีปัจจัยสำคัญมาจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ เช่น โครงการก่อสร้างถนนทางหลวงและทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง ทำให้การเดินทางเข้า-ออกเมืองได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
ประกอบกับราคาที่ดินบริเวณชานเมืองยังคงมีราคาไม่สูงมากนัก ซึ่งผู้ประกอบการสามารถพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบได้ในราคาที่สอดคล้องกับกำลังซื้อของกลุ่มผู้ที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยในปัจจุบัน
ขณะที่ราคาที่ดินในกรุงเทพชั้นในปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นมาจากที่ดินเปล่ารอการพัฒนาในพื้นที่ดังกล่าวมีจำนวนจำกัด จึงทำให้การซื้อขายที่ดินที่มีขนาดแปลงไม่ใหญ่แต่มีมูลค่าสูง และมักถูกพัฒนาเป็นรูปแบบโครงการมิกซ์ยูส ที่ประกอบด้วย อาคารสำนักงาน, อาคารพาณิชยกรรม และอาคารที่อยู่อาศัยประเภทอาคารชุด
โดยทำเลที่มีการเปลี่ยนแปลงราคาที่ดินสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่
1. ที่ดินโซนนครปฐม มีอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคาที่ดินสูงขึ้น 59.6% YoY
2. ที่ดินโซนสมุทรสาคร มีอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคาที่ดินสูงขึ้น 44.2% YoY
3. ที่ดินโซนเมืองปทุมธานี-ลาดหลุมแก้ว-สามโคก มีอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคาที่ดินสูงขึ้น 27.3% YoY
4. ที่ดินโซนกรุงเทพชั้นใน (เขตจตุจักร, เขตห้วยขวาง, เขตยานนาวา, เขตวัฒนา, เขตคลองเตย, เขตพญาไท, เขตบางคอแหลม, เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย, เขตบางซื่อ, เขตดินแดง, เขตราชเทวี และเขตบางรัก) มีอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคาที่ดินสูงขึ้น 16.4% YoY
5. ที่ดินโซนบางเขน-สายไหม-ดอนเมือง-หลักสี่-มีนบุรี-หนองจอก-คลองสามวา-ลาดกระบัง มีอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคาที่ดินสูงขึ้น 1.2% YoY

เช็กราคาประเมินที่ดินกรุงเทพฯ
ราคาประเมินที่ดินกรุงเทพฯ ทำเลไหนราคาแพงสุด เช็กได้ที่นี่
5 แนวรถไฟฟ้าราคาที่ดินเพิ่มขึ้นสูงสุด
ส่วนราคาที่ดินเปล่าก่อนการพัฒนาในแนวเส้นทางที่มีรถไฟฟ้าผ่าน พบว่า ทำเลที่มีอัตราการขยายตัวของราคาที่ดินเพิ่มขึ้นสูงสุดเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นที่ดินที่มีโครงการรถไฟฟ้าเปิดให้บริการแล้ว และเป็นทำเลที่มีสถานีเชื่อมต่อระหว่างสถานีรถไฟฟ้าหรือสามารถเดินทางเชื่อมถึงกันได้ง่าย
โดย 5 อันดับแรกที่มีอัตราการขยายตัวของราคาที่ดินเพิ่มขึ้นสูงสุด ได้แก่
1. รถไฟฟ้า MRT และรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม (บางซื่อ-หัวลำโพง) ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าที่เปิดให้บริการแล้วและโครงการในอนาคต มีอัตราการขยายตัวของราคาที่ดินเพิ่มขึ้นเท่ากันคือ 16.4% YoY
โดยราคาที่ดินในพื้นที่คลองเตย, ดินแดง และจตุจักร ซึ่งเป็นพื้นที่บริการตามแนวรถไฟฟ้า MRT เป็นบริเวณที่มีราคาปรับเพิ่มขึ้นมากที่สุด
ประกาศขายที่ดิน
รวมประกาศขายที่ดินแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน
2. รถไฟฟ้าสายสีเขียว (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) และรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม (บางซื่อ-มธ.รังสิต) ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าที่เปิดให้บริการแล้ว มีอัตราการขยายตัวของราคาที่ดินเพิ่มขึ้นเท่ากันคือ 15.6% YoY
โดยราคาที่ดินในพื้นที่ธัญบุรี, สามโคก และคลองหลวง ซึ่งเป็นพื้นที่บริการตามแนวที่รถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม เป็นบริเวณที่มีราคาปรับเพิ่มขึ้นมาก
3. รถไฟฟ้าสายสีเขียว (คูคต-ลำลูกกา) ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าโครงการในอนาคต มีอัตราการขยายตัวของราคาที่ดินเพิ่มขึ้น 10.1% YoY
โดยราคาที่ดินในพื้นที่ลำลูกกา และสายไหม เป็นบริเวณที่มีราคาปรับเพิ่มขึ้นมาก
4. รถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่-เตาปูน) ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าที่เปิดให้บริการแล้ว มีอัตราการขยายตัวของราคาที่ดินเพิ่มขึ้น 10% YoY
โดยราคาที่ดินในพื้นที่บางบัวทอง, จตุจักร และบางซื่อ เป็นบริเวณที่มีราคาปรับเพิ่มขึ้นมาก
5. รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (หัวลำโพง-บางแค), รถไฟฟ้าสายสีทอง (ธนบุรี-ประชาธิปก) และสายสีส้ม (ตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรมฯ) ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าที่เปิดให้บริการแล้วและโครงการในอนาคต มีอัตราการขยายตัวของราคาที่ดินเพิ่มขึ้นเท่ากันคือ 9.2% YoY
โดยราคาที่ดินในพื้นที่ภาษีเจริญ, ธนบุรี และบางกอกใหญ่ ซึ่งเป็นพื้นที่บริการของรถไฟฟ้าทั้ง 2 สาย เป็นบริเวณที่มีราคาปรับเพิ่มขึ้นมากที่สุด
รวมประกาศขายที่ดินในกรุงเทพฯ
ค้นหาที่ดินในกรุงเทพฯ หลากหลายราคา และหลากหลายทำเล
10 ทำเลที่มีราคาที่ดินแพงสุดในปี 2567
ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA ซึ่งสำรวจราคาที่ดินทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล เป็นประจำทุกปีมาตั้งแต่ปี 2537 พบว่า 10 ทำเลที่ดินราคาแพงในกรุงเทพฯ ในปี 2567 ได้แก่
ทำเล
ราคาที่ดินปี 2566
ราคาที่ดินปี 2567
ราคาที่ดินเพิ่มขึ้น
1. สยามสแควร์, ชิดลม, เพลินจิต
3.6 ล้านบาท/ตารางวา
3.75 ล้านบาท/ตารางวา
4.16%
2. วิทยุ
2.95 ล้านบาท/ตารางวา
3.1 ล้านบาท/ตารารงวา
5.08%
3. สุขุมวิท-ไทม์สแควร์
2.8 ล้านบาท/ตารางวา
2.94 ล้านบาท/ตารางวา
4.16%
4. สุขุมวิท 21-อโศก
2.6 ล้านบาท/ตารางวา
2.73 ล้านบาท/ตารางวา
4.16%
5. สีลม
2.55 ล้านบาท/ตารางวา
2.7 ล้านบาท/ตารางวา
5.88%
6. สาทร
2.25 ล้านบาท/ตารางวา
2.4 ล้านบาท/ตารางวา
6.66%
7. สุขุมวิท-เอกมัย
1.85 ล้านบาท/ตารางวา
1.95 ล้านบาท/ตารางวา
5.4%
8. เยาวราช
1.8 ล้านบาท/ตารางวา
1.9 ล้านบาท/ตารางวา
5.55%
9. พญาไท
1.75 ล้านบาท/ตารางวา
1.85 ล้านบาท/ตารางวา
5.71%
10. พหลโยธินตอนต้น
1.7 ล้านบาท/ตารางวา
1.8 ล้านบาท/ตารางวา
5.88%
โดยทำเล “สยามสแควร์-ชิดลม-เพลินจิต” มีราคาที่ดินสูงสุดและปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกปี มาตลอดตั้งแต่ช่วงโควิด-19 จนถึงปัจจุบัน เฉลี่ยเพิ่มขึ้น 3-5% เนื่องจากเป็นย่านธุรกิจ, แหล่งงานขนาดใหญ่ และแหล่งรวมค้าปลีกสำคัญของกรุงเทพฯ
อย่างไรก็ตาม ทำเลที่น่าจับตาคือ “พระราม 4” มีโครงการขนาดใหญ่มิกซ์ยูสเกิดขึ้นมาก โดยเฉพาะโครงการที่เปิดล่าสุดอย่าง “วันแบงค็อก” อย่างเป็นทางการ และโครงการ “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” ที่จะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในปี 2568 ทั้งศูนย์การค้าและคอนโดหรู คาดว่า ราคาที่ดินโดยรอบจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก
ส่วน 10 ทำเล ราคาที่ดินถูกที่สุด ส่วนใหญ่อยู่บริเวณเขตนอกเมือง โดยเฉพาะที่ไม่มีระบบสาธารณูปโภคหรือระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ ราคาจึงถูก และตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมา ราคาปรับขึ้นเพียงปีละ 1-2% เท่านั้น ยกเว้นในช่วงระยะหลังที่ความเป็นเมืองได้ขยายตัวออกสู่รอบนอกมากขึ้นเล็กน้อย ได้แก่
1. เลียบคลอง 13 กม.5 ราคาที่ดิน 4,200 บาท/ตารางวา
2. ตรงข้ามศูนย์ศิลปาชีพบางไทร ราคาที่ดิน 8,000 บาท/ตารางวา
3. กาญจนาภิเษก กม.34 ราคาที่ดิน 9,000 บาท/ตารางวา
4 กาญจนาภิเษก กม.8 บางปะอิน ราคาที่ดิน 9,400 บาท/ตารางวา
5. เลียบคลองรพีพัฒน์ ราคาที่ดิน 9,800 บาท/ตารางวา
6. สุขุมวิท กม.46 บางบ่อ ราคาที่ดิน 9,800 บาท/ตารางวา
7. รังสิต-วังน้อย ราคาที่ดิน 10,500 บาท/ตารางวา
8. ลำต้อยติ่ง ราคาที่ดิน 11,000 บาท/ตารางวา
9. ประชาสำราญ ราคาที่ดิน 12,000 บาท/ตารางวา
10. กาญจนาภิเษก กม.23 หลวงแพ่ง ราคาที่ดิน 13,500 บาท/ตารางวา
เช็กราคาที่ดิน 14 ทำเลแนวรถไฟฟ้า
จากการสำรวจราคาที่ดินตามแนวรถไฟฟ้าทั้งหมดของ ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ได้สรุปผลการเปลี่ยนแปลงราคาที่ดินตามแนวรถไฟฟ้าสายต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล
โดยพบว่า ราคาที่ดินตามแนวรถไฟฟ้าในปี 2565-2566 มีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญมากกว่าราคาที่ดินตามแนวถนนอื่น ๆ ที่ไม่มีรถไฟฟ้า
1. รถไฟฟ้า BTS
ราคาที่ดินเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 3.26% เนื่องจากในทำเลใจกลางเมืองค่อนข้างมีจำกัด จึงมีการเปลี่ยนแปลงราคาในช่วงปีล่าสุดค่อนข้างน้อย และพบว่าราคาเฉลี่ยตั้งแต่เริ่มจนถึงปัจจุบัน เพิ่มขึ้นปีละ 7.96% สายนี้เพิ่มขึ้นสูงมากเป็นอันดับแรก ๆ เพราะเป็นสายแรก และยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
2. รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว ส่วนต่อขยาย ช่วงอ่อนนุช-แบริ่ง
ราคาที่ดินเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 2.64% ราคาที่ดินในรถไฟฟ้าสายนี้ก็เพิ่มขึ้นไม่มากในช่วงปีที่ผ่านมาเพราะการก้าวกระโดดในช่วงก่อน (ปี 2560-2562) โดยราคาที่ดินเฉลี่ยตั้งแต่เริ่มจนถึงปัจจุบัน เพิ่มขึ้นปีละ 8.94% เนื่องจากรถไฟฟ้าสายนี้วิ่งผ่านพื้นที่สำคัญ มีการพัฒนาใหม่ ๆ เกิดขึ้นอย่างมาก
3. รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว ส่วนต่อขยาย ช่วงตากสิน-บางหว้า
ราคาที่ดินเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 2.96% ในทำนองเดียวกับรถไฟฟ้า BTS ช่วงหมอชิต-คูคด การเพิ่มขึ้นของราคาเกิดขึ้นในช่วง 3-4 ปีก่อน (ปี 2560-2562) โดยราคาพุ่งขึ้นสูงมาก แต่ในปัจจุบันราคากลับแทบไม่เพิ่มขึ้น ยิ่งกว่านั้นราคาเฉลี่ยตั้งแต่เริ่มจนถึงปัจจุบัน เพิ่มขึ้นปีละ 9.46% เนื่องจากรถไฟฟ้าสายนี้เข้าไปในพื้นที่ที่อยู่อาศัยหนาแน่นในย่านฝั่งธนบุรี จึงทำให้มีการเพิ่มขึ้นราคาสูงขึ้นอย่างจริงจัง
4. รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว ส่วนต่อขยาย ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ
ราคาที่ดินเฉลี่ยล่าสุดเพิ่มขึ้น 4.11% ราคาที่ดินในปีล่าสุดยังเพิ่มขึ้นสูงพอสมควร เพราะโครงการนี้เพิ่งแล้วเสร็จ ราคาที่ดินเฉลี่ยตั้งแต่เริ่มจนถึงปัจจุบัน เพิ่มขึ้นปีละ 7.25% แม้ว่ากำลังเติบโต แต่ไม่ได้หวือหวาเท่าช่วงแรก ๆ
5. รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว ส่วนต่อขยาย ช่วงหมอชิต-คูคด
ราคาที่ดินเฉลี่ยล่าสุดเพิ่มขึ้น 2.63% การเพิ่มขึ้นของราคาเกิดขึ้นในช่วง 3-4 ปีก่อน (ปี 2560-2562) โดยราคาพุ่งขึ้นสูงมาก แต่ในปัจจุบันราคากลับแทบไม่เพิ่มขึ้น ราคาที่ดินเฉลี่ยตั้งแต่เริ่มจนถึงปัจจุบัน เพิ่มขึ้นปีละ 9.56% เนื่องจากเป็นสายสำคัญในการเข้าเมืองโดยตรง
6. รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน
ราคาที่ดินเฉลี่ยล่าสุดเพิ่มขึ้น 4.20% และยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เนื่องจากทำเลอย่างย่านรัชดา-ห้วยขวางยังพัฒนาต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามราคาเฉลี่ยตั้งแต่เริ่มจนถึงปัจจุบัน เพิ่มขึ้นปีละ 7.23% ถือว่าเติบโตต่อเนื่องเพราะอยู่ในบริเวณที่มีการใช้สอยสูงมาก
7. รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ
ราคาที่ดินเฉลี่ยล่าสุดเพิ่มขึ้น 3.06% เนื่องจากการพัฒนาอาจจะไม่มากนัก เพราะมีพื้นที่พัฒนาค่อนข้างจำกัด ราคาเฉลี่ยตั้งแต่เริ่มจนถึงปัจจุบัน เพิ่มขึ้นปีละ 6.45% ถือว่าราคาที่ดินยังเติบโต แต่ไม่ได้สูงมากนัก เพราะผ่านในย่านที่มีการพัฒนามากแล้ว
8. รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค
ราคาที่ดินเฉลี่ยล่าสุดเพิ่มขึ้น 3.41% สาเหตุที่ราคาที่ดินเพิ่มขึ้นไม่สูงมากนักเนื่องจากได้ขึ้นราคาไปมากแล้วในช่วงก่อนหน้านี้ โดยราคาเฉลี่ยตั้งแต่เริ่มจนถึงปัจจุบัน เพิ่มขึ้นปีละ 9.37% ถือว่าเป็นทำเลที่ราคาที่ดินมีแนวโน้มจะสูงขึ้นเพราะผ่านพื้นที่ที่อยู่อาศัยหนาแน่นสูงในย่านฝั่งธนบุรีและผ่านใจกลางเมือง
9. รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์
ราคาที่ดินเฉลี่ยล่าสุดเพิ่มขึ้น 3.23% โดยราคาที่ดินเพิ่มขึ้นค่อนข้างต่ำ เพราะแทบไม่มีแปลงที่ดินที่จะพัฒนาได้มากนัก ราคาเฉลี่ยตั้งแต่เริ่มจนถึงปัจจุบัน เพิ่มขึ้นปีละ 7.38% ถือว่าราคาที่ดินเพิ่มขึ้นไม่มาก เนื่องจากมีจำนวนไม่กี่สถานี รวมทั้งจากตัวสถานีไปตามจุดต่าง ๆ ก็ไม่มีอะไรเชื่อมต่อ
10. รถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-บางใหญ่
ราคาที่ดินเฉลี่ยล่าสุดเพิ่มขึ้น 3.31% โดยราคาที่ดินในปีล่าสุดกลับเพิ่มขึ้นน้อย เพราะตลาดยังไม่ฟื้นตัวดีนักในทำเลรถไฟฟ้าสายนี้ ราคาที่ดินเฉลี่ยตั้งแต่เริ่มจนถึงปัจจุบัน เพิ่มขึ้นปีละ 7.57% แม้ราคาที่ดินจะเพิ่มขึ้น แต่โอกาสในการพัฒนาเป็นคอนโดมีจำกัด เนื่องจากสถานการณ์ตลาดไม่ดี ยังมีคอนโดเหลืออีกเป็นจำนวนมาก
11. รถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน
ราคาที่ดินเฉลี่ยล่าสุดเพิ่มขึ้น 2.56% ถือว่ามีการขึ้นของราคาที่ดินต่ำสุด เพราะเป็นสายรถไฟฟ้าที่ไปตามทางรถไฟเดิมที่ไม่มีการพัฒนามากนัก ราคาที่ดินเฉลี่ยตั้งแต่เริ่มจนถึงปัจจุบัน เพิ่มขึ้นปีละ 4.54% เนื่องจากแทบไม่มีการพัฒนาอะไรในพื้นที่จึงทำให้ราคาที่ดินเพิ่มขึ้นน้อย
12. รถไฟฟ้าสายสีชมพู แคราย-มีนบุรี
ราคาที่ดินเฉลี่ยล่าสุดเพิ่มขึ้น 4.96% ถือว่าราคาที่ดินแนวรถไฟฟ้าสายนี้ยังเพิ่มขึ้นสูงพอสมควร เพราะการก่อสร้างใกล้จะแล้วเสร็จ ราคาเฉลี่ยตั้งแต่เริ่มจนถึงปัจจุบัน เพิ่มขึ้นปีละ 8.89% เรียกว่าเป็นรถไฟฟ้าสายใหม่ที่มีการเพิ่มขึ้นของราคาที่ดินค่อนข้างสูง
13. รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง
ราคาที่ดินเฉลี่ยล่าสุดเพิ่มขึ้น 3.53% แต่ราคาที่ดินในปีล่าสุดเพิ่มขึ้นค่อนข้างน้อยเพราะเพิ่มไปมากแล้วก่อนหน้านี้ ราคาที่ดินเฉลี่ยตั้งแต่เริ่มจนถึงปัจจุบัน เพิ่มขึ้นปีละ 9.75% ถือว่าเป็นสายรถไฟฟ้าที่ราคาเพิ่มขึ้นสูงสุดเนื่องจากเพิ่งเริ่มต้นในไม่กี่ปีมานี้ โดยเฉพาะบริเวณถนนลาดพร้าว
14. รถไฟฟ้าสายสีส้ม
ราคาที่ดินเฉลี่ยล่าสุดเพิ่มขึ้น 3.95% โดยราคาที่ดินเพิ่มขึ้นมากในช่วงปี 2561-2562 แต่ในปัจจุบันเพิ่มขึ้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยไม่มากนัก ราคาที่ดินเฉลี่ยตั้งแต่เริ่มจนถึงปัจจุบัน เพิ่มขึ้นปีละ 9.02% ซึ่งรถไฟฟ้าสายนี้วิ่งไปถึงมีนบุรี ช่วยสร้างศักยภาพใหม่ให้กับพื้นที่นี้โดยตรง
โดยสรุปแล้วราคาที่ดินแนวรถไฟฟ้าเฉลี่ยโดยรวมล่าสุดเพิ่มขึ้น 3.42% ถือว่าเพิ่มขึ้นไม่มากนัก พอ ๆ กับราคาที่ดินในพื้นที่อื่น ๆ แต่หากพิจารณาราคาที่ดินโดยรวมเฉลี่ยตั้งแต่เริ่มจนถึงปัจจุบัน เพิ่มขึ้นปีละ 8.10% ถือได้ว่าเพิ่มสูงกว่าราคาที่ดินทั่วไปซึ่งอยู่ที่ประมาณ 3-4%
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น DDproperty by PropertyGuru ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท ออลพร็อพเพอร์ตี้ มีเดีย จำกัด ไม่สามารถรับรองหรือรับประกันเกี่ยวกับข้อมูล รวมทั้งไม่สามารถรับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับความเหมาะสม สำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะใด ๆ ของข้อมูล ตามขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต แม้ว่าเราได้พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วน ณ เวลาที่เขียน แต่ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ไม่ควรนำไปใช้ในการตัดสินใจทางการเงิน, การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือทางกฎหมายทันที ผู้อ่านไม่ควรใช้ข้อมูลในบทความ แทนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมซึ่งสามารถพิจารณาข้อเท็จจริงและสถานการณ์ส่วนตัวของคุณได้ ทั้งนี้ เราไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากคุณเลือกที่จะนำข้อมูลไปใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ